ตาเหิน ๑

Hedychium forrestii Diels

ไม้ล้มลุกหลายปี มักพบเป็นต้นเดี่ยวหรือแตกกอห่าง มีลำต้นใต้ดินเป็นเหง้าค่อนข้างหนาและฉ่ำน้ำ มีกลิ่นหอมอ่อน ลำต้นเทียมเกิดจากกาบใบเรียงสลับโอบซ้อนกันแน่นชูเหนือดิน ใบเดี่ยว เรียงสลับระนาบเดียว รูปใบหอกกึ่งรูปขอบขนาน ช่อดอกแบบช่อกระจุกเชิงประกอบกึ่งช่อกระจะ ออกที่ปลายลำต้นเทียม ตั้งขึ้น แต่ละซอกใบประดับมี ๒-๔ ดอก ทยอยบานไปสู่ปลายช่อ ดอกสีขาว มีกลิ่นหอม ผลแบบผลแห้งแตก รูปทรงรีหรือรูปทรงค่อนข้างกลม สีเขียวอมเหลือง มีใบประดับ ใบประดับย่อย และกลีบเลี้ยงขยายใหญ่ ติดทน เมล็ดรูปกระสวยถึงรูปทรงกลม มีจำนวนมาก มีเยื่อหุ้มเมล็ดสีแดงอมส้ม

ตาเหินชนิดนี้เป็นไม้ล้มลุกหลายปี มักพบเป็นต้นเดี่ยวหรือแตกกอห่าง มีลำต้นใต้ดินเป็นเหง้าค่อนข้างหนาและฉ่ำน้ำ มีกลิ่นหอมอ่อน ลำต้นเทียมเกิดจากกาบใบเรียงสลับโอบซ้อนกันแน่นชูเหนือดิน สูง ๑-๒.๓ ม.

 ใบเดี่ยว เรียงสลับระนาบเดียว มี ๖-๘ ใบ รูปใบหอกกึ่งรูปขอบขนาน กว้าง ๑๕-๑๘ ซม. ยาว ๖๐-๗๐ ซม. ปลายเรียวแหลม โคนรูปลิ่ม ขอบเป็นคลื่น แผ่นใบหนาคล้ายแผ่นหนัง ด้านบนค่อนข้างเกลี้ยง ด้านล่างมีขน โดยเฉพาะตามเส้นกลางใบ เส้นกลางใบเป็นร่องตื้นทางด้านบน ส่วนใกล้โคนเป็นร่องลึกไปถึงก้านใบ นูนเด่นชัดทางด้านล่าง เส้นแขนงใบจำนวนมาก เรียงค่อนข้างขนานกัน ไร้ก้าน ลิ้นใบสีเขียว เป็นเยื่อค่อนข้างบางและโปร่งแสง รูปขอบขนาน กว้าง ๓-๔ ซม. ยาว ๖.๕-๗.๕ ซม. ปลายมน ค่อนข้างแหลม หรือเว้าเป็น ๒ แฉก มีขนหนาแน่น กาบใบสีออกเขียว ค่อนข้างหนาและอวบน้ำ มี ๒-๔ กาบที่อยู่ใกล้โคนลำต้นเทียมไม่มีแผ่นใบ กาบที่อยู่เหนือขึ้นไปยาวได้ถึง ๒.๓ ม. เรียงสลับโอบซ้อนกันแน่น

 ช่อดอกแบบช่อกระจุกเชิงประกอบกึ่งช่อกระจะ ออกที่ปลายลำต้นเทียม ตั้งขึ้น ยาว ๒๐-๓๐ ซม. ก้านช่อดอกรูปทรงกระบอก ยาว ๖-๗ ซม. ใบประดับที่โคนก้านช่อหนาคล้ายแผ่นหนัง รูปคล้ายใบ ถัดขึ้นไปมีใบประดับจำนวนมากอยู่ค่อนข้างแน่น แต่ละซอกใบประดับมี ๒-๖ ดอก ทยอยบานไปสู่ปลายช่อสีเขียว รูปกรวย กว้าง ๒.๕-๓.๕ ซม. ยาว ๕-๗ ซม. ม้วนเป็นหลอด ปลายแหลม มีขนหนาแน่น ใบประดับย่อยสีเขียว ยาวประมาณ ๑ ซม. ม้วนเป็นหลอด ปลายแหลม มีขนสั้น ดอกสีขาว มีกลิ่นหอม กลีบเลี้ยงโคนเชื่อมติดกันเป็นหลอด กว้าง ๓-๔ มม. ยาว ๔.๕-๕.๒ ซม. ปลายแยกเป็นแฉกด้านเดียว ปลายสุดหยักซี่ฟัน ๒-๓ หยัก มีขนสั้นกระจายห่าง กลีบดอกโคนเชื่อมติดกันเป็นหลอดแคบ กว้าง ๐.๕-๑ ซม. ยาว ๗-๘.๕ ซม. ปลายแยกเป็น ๓ แฉก แต่ละแฉกรูปแถบ กว้าง ๐.๔-๑ ซม. ยาว ๔-๕ ซม. ปลายคุ่ม เกสรเพศผู้ ๖ เกสร ที่สมบูรณ์มี ๑ เกสร อับเรณูสีเหลือง กว้าง ๓-๔ มม. ยาว ๑.๕-๑.๘ ซม. ก้านชูอับเรณูสีขาว ยาว ๓-๔ ซม. เกสรเพศผู้ที่เหลืออีก ๕ เกสรเป็นหมันและเปลี่ยนรูปคล้ายกลีบดอก มี ๓ เกสรที่อยู่ตรงกลางเชื่อมติดกันและเปลี่ยนเป็นกลีบปาก สีขาว รูปค่อนข้างกลม กว้างและยาว ๓.๕-๕.๓ ซม. ปลายแยกเป็นแฉก ยาว ๑-๑.๓ ซม. โคนสอบเรียว ขอบเรียบหรือเป็นคลื่น อีก ๒ เกสรอยู่ข้างกลีบปากข้างละ ๑ เกสร แยกอิสระเป็นกลีบคู่ข้าง รูปรีแกมรูปขอบขนาน กว้าง ๑.๗-๒.๒ ซม. ยาว ๓.๕-๔.๕ ซม. รังไข่อยู่ใต้วงกลีบ รูปทรงกระบอก กว้าง ๒-๔ มม. ยาว ๔-๘ มม. มี ๓ ช่อง แต่ละช่องมีออวุลจำนวนมาก ก้านยอดเกสรเพศเมียมี ๓ ก้าน ที่สมบูรณ์มี ๑ ก้านรูปคล้ายเส้นด้าย ยอดเกสรเพศเมียคล้ายรูปถ้วย สีเขียว ขอบมีขน ก้านยอดเกสรเพศเมียที่ไม่สมบูรณ์อีก ๒ ก้านลดรูปเป็นติ่ง ยาวประมาณ ๕ มม. สีเหลืองอมน้ำตาล ติดอยู่เหนือรังไข่

 ผลแบบผลแห้งแตก รูปทรงรีหรือรูปทรงค่อนข้างกลม กว้าง ๒-๒.๔ ซม. ยาว ๓-๓.๕ ซม. สีเขียวอมเหลือง มีใบประดับ ใบประดับย่อย และกลีบเลี้ยงขยายใหญ่ ติดทน เมล็ดรูปกระสวยถึงรูปทรงกลม มีจำนวนมาก กว้าง ๔-๕ มม. ยาว ๖-๘ มม. มีเยื่อหุ้มเมล็ดสีแดงอมส้ม

 ตาเหินชนิดนี้มีเขตการกระจายพันธุ์ในประเทศไทยทางภาคเหนือ พบตามป่าดิบเขา ที่สูงจากระดับทะเลปานกลาง ๑,๐๐๐-๑,๕๐๐ ม. ออกดอกเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคม เป็นผลเดือนสิงหาคมถึงกันยายน ในต่างประเทศพบที่อินเดีย เนปาล เมียนมา จีน เวียดนาม และลาว.

ชื่อหลักหรือชื่อทางการ
ตาเหิน ๑
ชื่อวิทยาศาสตร์
Hedychium forrestii Diels
ชื่อสกุล
Hedychium
คำระบุชนิด
forrestii
ชื่อผู้ตั้งพรรณพืช
- Diels, Friedrich Ludwig Emil
ช่วงเวลาเกี่ยวกับผู้ตั้งพรรณพืช
- (1874-1945)
ผู้เขียนคำอธิบาย
ดร.ปราโมทย์ ไตรบุญ